L o a d i n g

ความสามารถของ AI ในปัจจุบันที่ทำให้มิจฉาชีพหรือผู้ไม่หวังดีสามารถปลอมเป็นใครก็ได้อย่างง่ายดายทั้งภาพและเสียง หรือส่วนหนึ่งคือ Deepfake นั้น เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ผู้เล่นรายใหญ่ต่างให้ความสำคัญ เพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ YouTube แพลตฟอร์มวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีส่วนให้รับผิดชอบมากกว่าบริษัทอื่นๆ ได้เปิดเผยนโยบายให้ผู้ใช้สามารถขอให้ลบเนื้อหาที่สร้างขึ้นด้วย AI ซึ่งเลียนแบบรูปลักษณ์หรือเสียงของพวกเขาได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมจากกฎการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีอยู่ก่อนแล้ว

การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกเพิ่มขึ้นอย่างเงียบๆ ในการอัปเดตนโยบายความเป็นส่วนตัวของ YouTube เมื่อเดือนที่แล้ว โดยในรายละเอียด YouTube ถือว่ากรณีที่มีการใช้ AI เพื่อเลียนแบบและสร้างความเข้าใจผิดต่อบุคคลนั้นเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ปัญหาการให้ข้อมูลผิดหรือการละเมิดลิขสิทธิ์

อย่างไรก็ตามการยื่นคำร้องขอลบเนื้อหาไม่ได้หมายความว่าจะได้รับการอนุมัติเสมอไป เกณฑ์ที่ YouTube ระบุไว้ก็ยังมีความคลุมเครือและขึ้นอยู่กับการพิจารณา YouTube ระบุว่าเนื้อหาจะเข้าเกณฑ์ถ้าเนื้อหานั้นถูกเปลี่ยนแปลงหรือสังเคราะห์ บุคคลในคลิปนั้นต้องสามารถถูกระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน และเนื้อหานั้นจะต้องดูเหมือนของจริง ซึ่งรวมๆแล้วหมายถึงผู้รับชมอาจเข้าใจผิดว่าเป็นบุคคลดังกล่าวจริงๆ

YouTube จะรับฟังเฉพาะคำร้องขอจากเจ้าตัวที่ถูกปลอมแปลงเท่านั้น นอกจากในกรณีพิเศษเช่นบุคคลที่ถูกปลอมแปลงไม่มีอินเทอร์เน็ต เป็นผู้เยาว์ หรือเสียชีวิตเท่านั้น ที่จะรับคำร้องจากบุคคลที่สามหรือตัวแทนของบุคคลที่ถูกปลอมแปลง หากคำร้องขอได้รับการอนุมัติ YouTube จะให้เวลาผู้โพสต์วิดีโอ 48 ชั่วโมงในการดำเนินการ เช่น การตัดหรือเบลอภาพในช่วงที่มีปัญหา หรือการลบทั้งคลิปวิดีโอ หากผู้โพสต์ไม่ดำเนินการภายในเวลา วิดีโอจะถูกตรวจสอบเพิ่มเติมโดยทีม YouTube และจะถูกลบในที่สุด

ดูรวมๆแล้วถือว่าเป็นการแสดงจุดยืนที่ดี แต่ก็ยังน่าสงสัยว่า YouTube จะบังคับใช้ในทางปฏิบัติอย่างเข้มงวดหรือไม่ เพราะ YouTube เป็นส่วนหนึ่งในเครือของ Google ซึ่งกำลังมุ่งมั่นพัฒนา AI ของตัวเองและเป็นหนึ่งในผู้นำ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมนโยบายใหม่นี้ถึงถูกนำเสนออย่างเงียบๆ และ YouTube อาจจะไม่ได้จริงจังในการบังคับใช้นโยบายใหม่นี้ในการลบเนื้อหา AI ที่เป็นปัญหา ได้เข้มงวดเหมือนที่บังคับใช้กับวีดีโอที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผ่านมา แต่อย่างน้อยก็ถือเป็นทิศทางที่ดีและต้องรอดูกันต่อไปถึงทิศทางในอนาคต

ที่มา: https://futurism.com/the-byte/youtube-remove-ai-content-impersonates-you