ซีอีโอ Nvidia ชี้ AI รุ่นใหม่ต้องใช้พลังประมวลผลเพิ่มขึ้นจากเดิม 100 เท่า
Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia เผยว่า AI ยุคใหม่จะต้องใช้พลังประมวลผลมากกว่าเดิม 100 เท่า เพราะเทคนิคใหม่ที่ให้ AI คิดทีละขั้นตอนก่อนตอบคำถาม แทนที่จะทำนายคำต่อไปแบบเดิม (แบบไม่ได้คิดเป็นขั้นตอน)
Huang ชี้ว่า AI รุ่นใหม่ เช่น DeepSeek R1, GPT-4 ของ OpenAI และ Grok 3 ของ xAI ใช้กระบวนการคิดเชิงเหตุผล (Reasoning) ซึ่งต้องใช้ชิปประมวลผลมากกว่าเดิมอย่างมหาศาล
รายได้ของ Nvidia เพิ่มขึ้น 78% ในปีที่ผ่านมา รวมเป็น 39.33 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้จาก ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งรวมชิป AI โตขึ้น 93% และกลายเป็น 90% ของรายได้ทั้งหมด
แม้ Nvidia จะเติบโตเร็ว แต่ราคาหุ้นก็ร่วงลง 17% เมื่อเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการลดลงหนักสุดตั้งแต่ปี 2020 เพราะนักลงทุนกังวลว่า AI อาจทำงานได้ดี โดยไม่ต้องใช้ชิปที่แพงมาก อย่างที่เคยคิดกัน ซึ่ง Huang ไม่เห็นด้วยในประเด็นนี้ และบอกว่า AI ที่ใช้การให้เหตุผลต้องใช้ชิปมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง พร้อมชม DeepSeek ว่าทำให้โมเดล reasoning เป็นที่รู้จักมากขึ้น
อีกประเด็นสำหรับ Nvidia ก็คือการถูกห้ามขายชิป AI ขั้นสูงให้จีน เนื่องจากข้อจำกัดของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้รายได้จากจีนลดลง 50% ขณะที่ Huawei และบริษัทจีนอื่นๆ กำลังไล่ตามมาติดๆ แต่ Huang ยังมองในแง่ดีว่า นักพัฒนาจะหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ผ่านการปรับแต่งซอฟต์แวร์ “สุดท้ายแล้ว ซอฟต์แวร์จะหาทางได้เสมอ” เขากล่าว
Nvidia ยังคงเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ AI โดยมีบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ทุ่มเงินมหาศาลซื้อลงทุนกับชิปของบริษัท แม้ว่าการเติบโตจะเริ่มชะลอลงเล็กน้อย แต่ Nvidia ก็ยังเป็นผู้ชนะที่ชัดเจนในกระแส AI และในด้านประสิทธิภาพ ชิป AI รุ่นใหม่ของ Nvidia GB200 ที่ขายในสหรัฐฯ สามารถสร้างเนื้อหาให้ AI ได้เร็วกว่า 60 เท่า เมื่อเทียบกับชิปที่อนุญาตให้ขายในจีน
ที่มา: https://www.cnbc.com/2025/02/26/nvidia-ceo-huang-says-next-generation-ai-will-need-more-compute.html